ช่วงที่ไปประจวบ
แวะไปดูสวนของตาจิตร
ตาจิตรเป็นเพื่อนของพ่อที่สนิทกันมาก ตอนพ่อยังมีชีวิต ในทุกวันพระ ตาจิตร จะขี่ มอเตอร์ไซค์ มารับพ่อไปวัดด้วยกัน หลังจากที่พ่อเสียไปเมื่อปี50 ตาจิตร บอกว่า ไม่ค่อยได้ไปวัดแล้ว ปีนี้ ตาจิตวัย83ปี เข้าไปแล้ว ทำสวนผสม พื้นที่5 ไร่ มีรายได้จาก สวนนี้ เดือนละ2พันกว่าบาท(2,000.-) ซึ่งก็เฉียดฉิวกับรายจ่าย ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าเติมมือถือ ค่าข้าวสาร ปลาดสด ปลาแห้ง ค่าอุปกรณ์ทำสวน ปีก่อน ป้าเล็กเอาถั่วครกกับฟักข้าวไปให้ปลูก ไปถึง แกก็ชวนดู เถาถั่วครก กับฟักข้าว ขึ้นคลุมไม้อื่น
ตาจิตรปลูกผักกูดใต้ต้นมะพร้าว เก็บขายทุกตลาดนัดวันพุธ ได้ครั้งละสองร้อยกว่าบาท พอได้ซื้อกับข้าวไว้กิน
ยอดผักกูดก็พอมีให้เห็น ใครที่จะปลูกผักกูดขาย ก็หาที่ขายประจำให้ได้ แล้วก็จะมีรายได้สม่ำเสมอ ตลอดปี
ยอดแบบนี้ ที่เก็บไปขาย นำไปทำอาหารได้หลายอย่าง เช่น ยำผักกูด ต้มกะทิ ลวกกะทิกินกับน้ำพริก ใครได้กินผักกูด จะทำให้มื้อนั้นเจริญอาหาร ผักกูด มีเมือกที่ช่วยดูแลผนังลำไส้ได้ดี มีวิตามินเอสูง
เมนูผักกูดค่ะ
http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=plaipanpim&month=04-2012&date=23&group=1&gblog=313
มะละกอก็มีหลายต้น ไว้ทำอาหาร กินสุก และเอื้อเฟื้อเพื่อนบ้าน พืชอีกอย่างที่ทำรายได้ให้ตาจิตร คือมะพร้าว เมื่อได้เวลา เขาก็จะเอาลิงกังมาขึ้นและก็คิดเงินให้ บอกว่าได้ครั้งละ500.- ถึง 1000.- แล้วแต่ช่วง 20 วันเขาก็มาซื้อครั้งหนึ่ง
สมุนไพร ก็มีเยอะ กอนี้ ว่านชักมดลูก ออกดอกเดือนพฤษภา
ขมิ้นอ้อย
นายปืนมาดูดอกเลยนะ ว่าคล้ายกับดอกกระเจียวมั้ย
ก่อนกลับ ก็ได้ขุดต้นผักกูดมา1ถุงปุ๋ย เอามาทำพันธุ์ และได้คุยกับตาจิตร เรื่องการใช้จ่ายประจำวัน ทำไมตาจิตรถึงใช้เงินแค่เดือนละ2พันกว่าบาท ตาจิตรก็บอกทุกเรื่องที่อยากรู้ค่ะ เช่น ตู้เย็น ไม่ใช้แล้ว ประหยัดค่าไฟฟ้าเดือนละ250.- น้ำ ใช้แบบประหยัด ไมเปิดทิ้ง ไฟแสงสว่างไม่เปิดทิ้ง ผัก หาเก็บจากในสวน กินผักที่ปลูกเองโอกาสจะเจ็บป่วยมีน้อย สมุนไพรปลูกไว้ ก็เอามารักษาโรคได้ ป้าเล็กบอกตาจิตว่า ตาอย่าเพิ่งไปไหนนะ หนูจะย้ายมาอยู่บ้าน จะได้ไปปรึกษาตาจิตรเรื่องการใช้ชีวิตที่ลดรายจ่าย
ขอบคุณบ้านสวนพอเพียง
